Islam Way

ท่านนบีฯมีความกระตือรือร้นในการสร้างความสัมพันธ์พิเศษระหว่างมุสลิมด้วยกัน ให้ การร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ดูแลกัน ช่วยเหลือจุนเจือกัน

งานแรกของท่านนบีฯที่ได้ทำเมื่อเดินทางมาถึงเมืองมะดีนะห์ คือ การกำหนดสถานที่ ที่จะสร้างมัสยิดของท่าน

เมืองมะดีนะห์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเมืองหลวงของรัฐอิสลาม ตั้งแต่ท่านนบีฯได้มาอาศัยอยู่

ชาวอันศอรและชาวมุฮายิรีน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และข้าทาสจากเผ่าอันนัจยาร ต่างก็ออกมาต้อนรับท่านนบีกันอย่างมีควาสุข

เมื่อท่านนบีฯได้เข้าเมืองมะดีนะห์มาทางทิศเหนือของเมือง

ชาวเมืองมะดีนะห์จากชาวอันศอร และชาวมุฮาญิรีน ต่างก็ออกมารอรับท่านนบีฯที่ทุ่งฮัรเราะห์อย่างใจจ่อเป็นเวลาหลายวัน

ท่านนบีฯจะพูดสิ่งใดนั้น มิใช่มาจากอารมณ์ของท่าน แต่ทว่ามาจากการดลใจจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮู วะตะอาลา

ผู้ที่ละหมาด ถือศิลอดและออกซะกาต ก็เป็นผู้ล้มละลายได้หากไม่ละทิ้งการด่าทอ การนินทา หรือลักขโมย ของผู้อื่น

คัดคำถามและคำตอบ จากอุละมาอฺที่เป็นที่ยอมรับของโลกมุสลิม

ตอบปัญหาข้อสงสัยเกี่ยวกับการะอศีลอดในเดือนร่อมาฎอน

การถามตอบปัญหา ข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับเดือนร่อมะฎอน

อัลลอฮฺได้ทรงยกย่องเดือนร่อมะฎอน ซึ่งเป็นเดือนแห่งการถือศีลอด เหนือเดือนอื่นๆเนื่องพระองค์ได้ทรงประทานอัลกุรอานในเดือนนั้น

เมื่อบ่าวจะคำนวนถึงความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่มีต่อเขาแล้ว แน่นอนจะไม่สามารถคณานับถึงความโปรดปรานของพระองค์ได้

เดือนร่อมะฎอนเป็นเดือนแห่งผลได้และกำไรอย่างมากมาย บรรดาชาวสลัฟให้ความสำคัญกับเดือนนี้อย่างที่สุด

ท่านนบีฯได้แจงถึงคุณสมบัติของเดือนร่อมะฎอนว่า เป็นเดือนอันจำเริญโดยแท้จริง ในทุกๆขณะของเดือน

ร่อมะฎอนคือเดือนอันประเสริฐและเป็นมหกรรมการประกอบอิบาดะห์อันยิ่งใหญ่ เดือนแห่งความจำเริญและความดีงามมากมาย

เมื่อการค้นหาของชาวกุร็อยชฺหยุดลงท่านนบีและอบูบักรฺ ก็ออกจากถำในเวลากลางคืนเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองมะดีนะห์

ท่านอบูบักร์ได้รับใช้และคอยติดตามท่านนบีฯในระหว่างการเดินทางอพยพไปยังเมืองมะดีนะห์

ท่านอบูบักรฺเป็นผู้ที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในการอพยพของท่านนบีฯในครั้งนั้น

ท่านอบูบักร รอฎิยัลลอฮุอันฮุเป็นผู้มีบทบาทมากที่สุดในการอพยพของท่านนบีฯ ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ท่านนบีฯได้รอคอยคำสั่งจากอัลลอฮฺตะอาลาและการอนุญาตให้อพยพโดยการบริหารจัดการของพระองค์

ท่านอบูบักรฺและครอบครัวของท่าน เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการอพยพของท่านนบีฯ และท่านนบีฯก็มิใช่คนแรกที่มีการอพยพ เมื่อยุคก่อนหน้าท่านนบีอิบรอฮีม ก็เคยมีการอพยพมาแล้ว

ชาวศุฟฟะห์ พวกเขาเป็นชาวมุฮาญีรีนบางคนที่อาศัยอยูในห้องหนี่งของมัสยิดของท่านนบีฯ

การอพยพนั้นเป็นการปกปักรักษาการปฏิบัติ การช่วยเหลือศาสนา และยังเป็นการไปรวมตัวกับท่านนบีฯและบรรดาศอฮาบะห์

บรรดาชาวอันศอรรู้ดีถีงความเสี่ยงของการให้สัตยาบันในครั้งนี้และผลที่จะตามมา

การทำสัตยาบัน อะเกาะบะห์ ครั้งที่1

ทั้งสองกลุ่มนี้ในอดีตได้เคยทำส่งครามระหว่างกันมาโดยตลอด

อัลลอฮฺได้ทรงให้ท่านนบีฯได้รู้จักกับชนเผ่าต่างๆ ซึ่งี่ท่านได้เคยค้าขายให้กับท่านหญิงคอดียะห์ ท่านเป็นผู้น่านับถือในกลุ่มชาวเมืองมักกะห์

เหตุอิสรออ์และมิอฺรอจญ์ เป็นสิ่งปาฏิหาริย์ชนิดหนึ่ง ที่อัลลอฮฺให้เกิดเฉพาะท่านนบีมุฮัมมัดฯ

เหตุการทั้งสองนี้เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญยิ่ง และเฉพาะของท่านนบีฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ในปีที่10แห่งการเป็นนบีก่อนที่อบูฏอลิบจะเสียชีวิตไม่นานท่านได้ล้มป่วยลง ซึ่งท่านนบีมีความรูสึกเป็นห่วงลุงเป็นอย่างมาก จึงได้เรียกร้องเชิญชวนให้กล่าวคำปฏิญานตน

วันเวลาของเดือนรอมฎอนที่เต็มไปด้วยความจำเริญ ความดีงามมากมาย กำลังจะจากลาพวกเราไปอีกครา ประหนึ่งว่าพี่ยงแค่ชั่วครู่ไม่นาน มันช่างรวดเร็วเสียนี่กระไร

อัลลอฮฺได้ทรงบัญชาให้ปวงบ่าวผู้ศรัทธารำลึกถีงพระองค์ ทั้งในยามเช้า ยามเย็น ยามนั่ง ยามนอน ทั้งกลางวัน กลางคืน

การรำลึกถึงอัลลอฮฺ เป็นการงานที่ประเสริฐ ที่บริสุทธิ์ที่บ่าวมีความมุ่งมั่นต่อพระองค์โดยที่บ่าวมีความรู้สึกถึงการได้ใกล้ชิดต่อพระองค์อยู่ตลอดเวลา

อัลลอฮฺได้ทรงสัญญาแก่ผู้ที่รู้คุณและขอบคุณพระองค์ในควา มโปรดปรานที่พระองค์ทรงประทาน และใช้มันไปในหนทางของพระองค์จะได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่

มุสลิมจะต้องทำให้การถือศิลอด การละหมาด การบริจาคของเขายังประโยชน์และจะต้องได้รับประโยชน์จากการทำคุณงามความดี

อัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่ง ผู้ที่เปี่ยมไปด้วยวิทยปัญญา ทรงรอบรู้ทรงคัดสรรเดือนอันประเสริฐให้แก่ปวงบ่าวของพระองค์

รอมฎอนคือแขกอันทรงเกียรติและผู้มาเยือนอันประเสริฐของบรรดามุสลิม จึงเป็นการสมควรที่จะต้องต้อนรับอย่างดี อย่างสมเกียรติ ด้วยความปลาบปลื้มยินดีและให้เกียรติอย่างแท้จริง

จากความโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺที่มีต่อปวงบ่าวผู้ศรัทธา นั่นก็คือการประทานเดือนรอมฎอนนั่นเอง

จุดเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจเข้ารับอิสลาม

การรำลึกะงความนายอยู่นลอดเวลานั้นส่งผลดีในการปรับปรุงแก้ไขการดำเนินชีวิตและการเพิ่มพูนอีมานของมุสลิม

โลกดุนยานี้กำลังเดินจากไป โลกอาคิเราะห์กำลังเดินเข้ามาแทนที่ แน่ละโลกมีสาวก จงเป็นสาวกของโลกอาคิเราะห์เถิด

การมีชีวิตเป็นหนี่งในเครื่องหมาย ที่แสดงถึงพระอำนาจของอัลลอฮฺฉันใด ความตายก็เป็นหนึ่งในพระอำนาจของอัลลอฮฺฉันนั้น

ในบรรดาผู้ศรัทธานั้นมีผู้ที่กระทำการงานที่ประเสริฐ ผู้ที้ประสบกับความยากลำบาก หรือบททดสอบที่หนักหน่วงซึ่งได้รับความปลอกภัยจากการทรมานในหลุมกุบูรฺ

ฟิตนะห์และการทรมานในกุบูรมีความน่ากลัวและอันตรายอย่างยิ่ง ท่านนบึฯจึงขอให้ห่างไกลจากสิ่งดังกล่าว

สิ่งที่ช่วยให้รอดพ้นจากการถูกทรมานในหลุมฝังศพ คือการจะต้องเตรียมตัวและเตรียมพร้อมต่อความตายที่อาจมาเยือนเราได้ทุกเวลา

นอกจากผู้ที่มีหนี้สินจะถูกกักตัวไว้ในกุบูรฺแล้ว ก็ยังมีผู้ที่จะถูกทรมานในกุบูรฺด้วยการร้องให้ครำครวญของญาติ

การทรมานในหลุมฝังศพนั้นจะมีขึ้แก่ทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นมุสลิม มุนาฟิก หรือกาฟิรก็ตาม แต่ละคนขึ้นอยู่กับการงานความดีของเขา

มีบรรดาฮะดีสที่ศอเฮียฮฺมากมายได้ระบุไว้อย่างชัดเจนถึงการตอบแทนที่ความสุขและการตอบแทนการทรมานในหลุมฝังศพ

อัลลอฮฺผู้ทรงปรีชาญาณ ทรงประทานความสามารถแก่ท่านนบีให้ได้ยินเสียงของบรรดผู้ถูกลงโทษในหลุมฝังศพ

การได้รับความสุขและการถูกทดสอบในกุบูรนั้น เป็นเรื่องจำเป็นต้องเชื่อและศรัทธาในเรื่องดังกล่าว อย่างไม่มีข้อสงสัย

แท้จริงประชาชาตินี้จะถูกทดสอบในกุบูร

เมื่อศัพถูกฝังในหลุมกุบูรแล้ว กุบูรก็จะบีบรัดศพเอาไว้ ไม่มีผู้ใดสามารถรอดพ้นไปได้

ความมืดในหลุมฝังศพและการบีบรัดของหลุมฝังศพ

ท่านหญิงคอดียะห์เป็นภรรยาที่แสนประเสริฐ เป็นคิดที่ดี ของท่านนบีฯ และอบูตอลิบ ลุงของท่านก็เป็นผู้ให้การสนับสนุนปกป้องท่านนบีฯมาโดยตลอด

หลุมฝังศพ คือ ที่พำนักของโลกอาคิเราะห์

หนังสือ โลกแห่งหลุมฝังศพ القبر ประพันธ์ โดย ดร.อุมัร สุลัยมาน อัลอัชก็อรฺ แปลโดย อัดนาน นาแซ สำนักพิมพ์ ศูนย์หนังสืออิสลาม กรุงเทพฯ

เมื่อบรรดามุสลิมทราบความจร งว่าชาวกุร็อยชฺยังคงดื้อดันทำร้ายรังแกและต่อต้านนบีฯอย่างไม่ลดละ ทำให้ผู้คนมุสลิมจำนวนหนึ่งประสงค์ที่อพยพไปยังอบิสสีเนีย เพราะทราบข่าวว่าผู้อพยพชุดแรกมีชีวิตอย่างปลอดภัย

การทารุณกรรมต่อท่านนบีฯศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และบรรดาสาวก ยิ่งทวีความรุนแรง ซึ่งท่านนบีเองได้ปรอบใจเหล่าสาวกให้มีความอดทน อดกลั้น อยู่ตลอดเวลา

ชาวมักกะห์มิได้ทำร้ายเฉพาะท่านนบีแต่เพียงผู้เดียว แต่ไฟแห่งความโทสะของพวกมุชริกีนได้โหมกระหนำบรรดาสาวกของท่านอีกด้วย

พวกเขายังครหาต่อท่านนบีฯอยู่ตลอดเวลาว่าท่านนบีเป็นบ้าบ้าง เป็นนักมายากลบ้าง

พวกเขาพยายามดูถูกเหยียดหยาม เย้ยหยัน และทำทุกวิถีทางในการลดเกียรติของท่านนบีฯศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

อบูละฮับ และภรรยาของเขา ถือเป็นแกนนำของพวกกุร็อยชฺ ที่ต่อต้าน กดขี่ ข่มเหง รังแกท่านนบีฯและบรรดสาวกของท่านมาโดยตลอด

คนที่ทำความชั่วมามากมายขนาดไหนก็ตาม เมื่อเขาได้กระทำความดีอัลลอฮฺก็จะอภัยโทษให้แก่เขาอย่างแน่นอน

การทดสอบของอัลลอฮฺที่มีต่อบ่าวจะมาในลักษณะที่แตกต่างกันไป ที่สำคัญบ่าวจะต้องไม่ยะโส และไม่ลืมในความโปรดปรานที่อัลลอฮฺทรงประทานให้

ท่านนบีมุฮัมมัด ได้เล่าถึงนบีท่านหนึ่ง ที่อัลลอฮฺประทานความสามารถในการพูดคุยกับดวงอาทิตย์ได้ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ

เป็นเรื่องราวที่ปรากฏในฮะดีษศอเฮียฮฺ ที่บันทึกโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม เป็นเรื่องราวที่ชายผู้เป็นฆาตกรต้องการจะกลับเนื้อกลับตัว

ฮะดีษบทนี้เป็นารชี้ให้เห็นว่า การตะวัสซุ้ลด้วยผลงานความดีของตัวเองที่เคยกระทำเป็นสิ่งที่สามารถเป็นสื่อในการขอดุอาต่ออัลลอฮฺได้

สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดขอร่างกายก็คือ หัวใจ ถ้าสิ่งนี้ดีจะส่งผลให้สิ่งอื่นๆในร่างกายดีไปด้วย

ในเดือนรอมฎอนมุสลิมถือศีลอดระงับหักห้ามตนเองจากสิ่งที่อัลลอฮฺทรงห้าม ไม่ว่าจะหักห้ามดวงตา ลิ้น หู มือ เท้า และอวัยวะเพศ จากสิ่งที่อัลลอฮฺทรงห้าม

แท้จริงเดือนรอมฎอนคือเดือนแห่งผลได้และกำไรท่านนบีฯเพียรมานะในการอิบาดะห์ มากยิ่งกว่าเดือนอื่นๆ

การถือศิลอดเป็นอิบาดะห์ที่ประเสริฐสุด เป็นการตออะห์ที่สูงส่ง ที่มีตัวบทยืนยันจากอัลกุรอานและอัลฮะดีษ มากมาย

ความโปรดปรานที่อัลลอฮฺ ทรงประทานให้แก่บ่าวของพระองค์โดยเฉพาะมนุษย์มีมากมายโดยมิอาจคำนวณนับได้

ในการเรียกร้องเชิญชวนของท่านนบีฯย่างเปิดเผยครั้งแรก ท่านได้แจ้งให้ทุกคนทราบอย่างชัดเจน คำประกาศของท่านมีความชัดเจน และเข้มแข็งมาก

ท่านนบีฯได้อบรมบ่มเพาะให้บรรดาผู้ศรัทธาในช่วงแรกๆให้เชื่อมั่นต่อเตาฮีดของอัลลอฮฺ และทำการภักดีต่ออัลลอฮฺด้วยความบริสุทธิ์ใจ

#ศูนย์ศึกษาวิถีอิสลามพังงา สนับสนุนการเรียนรู้อิสลาม การศึกษาเกี่ยวกับชีวประวัติของท่านนบีฯ

การประทานสูเราะฮฺอัลมุดดัษษิร ถือเป็นสาส์นและการเชิญชวนและใช้ให้ลงมือปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด

สิ่งแรกที่เกิดขึ้นกับท่านนบีฯ ก่อนได้รับวะห์ยูคือ ท่านมักจะฝันดี ซึ่งเป็นความฝันที่ท่านเห็นนั้นจะปรากฏขึ้นเป็นความจริงดั่งแสงรุ่งอรุณที่ทอแสงขึ้นมา

การประทานวะห์ยูครั้งแรก ณ ถำหิรออ์ ภูเขานูรฺ ในช่วงเดือนรอมาฎอน ขณะท่านนบีฯอายุได้ 40 ปี

ก่อนที่อัลลอฮฺจะทรงคัดเลือกผู้ที่จะมาเป็นศาสนทูตของพระองค์นั้น พระองค์ทรงให้การดูแล อบรม และขัดเกลาเขาก่อนที่จะแต่งตั้ง

ก่อนการแต่งตั้งของท่านนบีฯให้เป็นศาสนทูตได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้อาคารกะอฺบะห์ชำรุดเสียหายถึงสองครั้งสองคราว

ท่านหญิงคอดียะห์ เป็นเศรษฐีนี มีความฉลาดหลักแหลมและไหวพริบเลิศลำ นางเคยสมรสมาก่อน นางมีทรัพย์สินมากมาย

เมื่อชีวิตของท่านเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ท่านเป็นที่ยอมรับกันว่าท่านเป็นผู้ซื่อสัตย์ไว้วางใจได้ ผู้คนต่างให้เกียรติแก่ท่านเป็นอย่างยิ่ง

ความเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับวันที่นั้น ไม่ทำให้เกียรติของท่านนั้น ต้องลดถอยลงแต่อย่างใด ท่านคือผู้นำมวลมนุษย์โดยไม่มีข้อกังขาแต่อย่างใด

มักกะห์เป็นที่รู้จักในนาม ดารุลนัดวะห์ซึ่งเป็นที่พบปะชุมนุม ของพวกกุร็อยชฺ

ชีวประวัติของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม

จากหนังสือ ชีวประวัติศาสนทูตมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ฉบับคัดสรร เรียบเรียงโดย ศ.ดร.อับดุลอะซีซ บิน อิบรอฮีม อัลอุมะรีย์ บรรณาธิการแปลโดย ซุฟอัม อุษมาน

ตามประวัติศาสตร์แล้วมุฮัมมัดมิใช่นักเผยแพร่ศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้วางรากฐานทางการปกครองด้วย

นักวิชาตะวันตกจำนวนมากในช่วงสองศตวรรษที่ผ่านมาได้ยืนยันคำพูดที่มีความเป็นธรรมในการวิพากษ์ว่าท่านนั้นเป็นศาสนทูตที่แท้จริง

ชาวคริสต์ได้ปกครองดินแดนอียิปต์ ซีเรีย และโรมัน แต่มีแพร่หลายในหมู่ชาวอาหรับโดยเฉพาะทางตอนเหนือของคาบสมุทรอาหรับ

ชาวยิวแห่งมะดีนะห์และค็อยบัรต่างรอคอยการมาของท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

เป็นที่ชัดเจนว่าการเมืองการปกครองของอาหรับก่อนอิสลามไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณส่วนกลาง และไม่มีรัฐใดที่ถูกรับรอง

ในEp.35-37 เกี่ยวกับสภาพสังคมอาหรับยุคก่อนอิสลามในด้านต่างๆ

แน่นอนที่สุดสำหรับมุอฺมินหรือผู้ศรัทธานั้น ย่อมที่จะต้องสร้างความรักที่มีต่อท่านนบีฯต้องมาก่อน หรือนำหน้าความรักที่มีต่อสิ่งอื่นใด โดยการให้เกียรติ ยกย่อง และเชิดชู

การเรียนรู้ประวัตินบีฯ ทำให้เราสามารถถอดบทเรียนต่างๆเหล่านั้นมาใช้ปฏิบัติในชีวิตจริง ที่ต้องผนวกรวมระหว่างดุนยาและอาคิเราะห์

ท่านนบีฯ ป็นผู้ที่อัลลอฮฺทรงรักมากที่สุดจากบรรดาสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง พระองค์ได้ทรงคัดเลือกท่านและมอบหน้าที่การเผยแผ่สารของพระองค์แก่ท่าน ก็เป็นหน้าที่ของมุสลิมที่จะต้องศึกษาชีวประวัติของศาสนทูตมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

การนำเสนอโดยอ้างอิงจากหนังสือ ชีวประวัติของท่านศาสนทูตมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ฉบับคัดสรร ย่อมาจากตำราเล่มใหญ่ เราะสูลุลลอฮฺ วะ คอตัม อัน-นะบียีน ดีน วะ เดาละฮ์ เรียบเรียงโดย ศ.ดร.อับดุลอะซีซ บิน อิบรอฮีม อัลอุมะรีย์ บรรณาธิการแปลโดย ซุฟอัม อุษมาน

การเฉลิมฉลองกันอย่างเอิกเกริกในวันที่1มกราคมของทุกๆปี แต่สำหรับประชาคมมุสลิมแล้ว วันดังกล่าวนั้นหาใช่เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองไม่ แต่เป็นวันแห่งโศกนาฏกรรมและความสูญเสียที่ไม่มีวันคืนกลับ

มุสลิมสมควรหรือไม่ที่จะไปร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่กัน ถ้าได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของชนชาติตนเอง ก็อาจทำให้มุสลิมรู้ถึงความเจ็บปวดที่ผ่านมา ต้องระมัดระวังตัวมากที่สุดในการที่จะร่วมเฉลิมฉลอง